คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ได้กำหนดวิสัยทัศน์ “เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำที่มีผลดำเนินการเป็นเลิศด้านสาธารณสุขศาสตร์และการแพทย์แผนตะวันออก ในการสร้างปัญญาและนวัตกรรมสุขภาพเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของชุมชนสู่สากล”
โดยมีกระบวนงานหลักที่สำคัญ ประกอบด้วย การผลิตบัณฑิตโดยดำเนินผ่านหลักสูตรการศึกษา การวิจัย และการบริการวิชาการ เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม รวมทั้งพันธกิจหลัก 5 ด้านของคณะ ซึ่งด้านวิจัยและนวัตกรรมพัฒนาเศรษฐกิจสังคม และชุมชน เป็นความท้ายทายและการเปลี่ยนแปลงในการบูรณาการสู่การสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรม การพัฒนาพันธกิจในการบริการวิชาชีพเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของชุมชนสู่สากล
ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ความท้าทายบริบทเชิงกลยุทธ์พบว่า คณะฯ มีจุดเด่นในด้านการสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการพัฒนากำลังคนที่มีสมรรถนะและทักษะแห่งอนาคต บริการวิชาการด้วยองค์ความรู้ วิจัยและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการวิเคราะห์ความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์พบว่าคณะฯ มีจุดเด่นด้านการบูรณาการกลุ่มวิจัยในลักษณะของสหสาขาวิชาชีพ ทั้งภายในและภายนอกคณะฯ และการบริการร่วมกับศาสตร์ต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ
ในปี พ.ศ. 2568 คณะสาธารณสุขศาสตร์ ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดประชุมวิชาการระดับชาติการแพทย์แผนไทยและสาธารณสุขวิจัย ครั้งที่ 5” ร่วมกับสถาบันภาคีเครือข่ายทั่วประเทศไทย ที่จัดการเรียนการสอนทางด้านการแพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือก ทางด้านสาธารณสุขศาสตร์ หรือทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ตลอดจนหน่วยงานภายนอกและองค์กรวิชาชีพทางด้านสุขภาพ อาทิ สภาการสาธารณสุขชุมชน สภาวิชาชีพการแพทย์แผนไทย สภาวิชาชีพการแพทย์แผนจีน สมาคมหมออนามัย เป็นต้น ซึ่งการประชุมวิชาการดังกล่าวฯ กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20-21 พฤศจิกายน 2568 ณ มหาวิทยาลัยพะเยา วิทยาเขตเชียงราย จังหวัดเชียงราย
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีนำเสนอผลงานวิชาการสำหรับผู้บริหาร นักวิชาการ นักวิจัย บุคลากรทางการศึกษา นักปฏิบัติการ และนักศึกษา ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การวิจัยและนวัตกรรม ตลอดจนประสบการณ์วิชาชีพร่วมกัน ในการพัฒนาระบบงานและนวัตกรรมด้านการแพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีนและสาธารณสุข อันจะนำไปสู่การสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการทั้งในระดับชาติและนานาชาติ และมุ่งสู่การพัฒนาสังคมสุขภาวะอย่างยั่งยืนต่อไป